ข่าวอัพเดต

“โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้” เปิดแผนปี 65 ลุยตลาดต่างจังหวัด เชื่อมั่นมาตรการรัฐเร่งกำลังซื้อบ้านกลุ่ม ‘กลาง-ล่าง’ ฟื้นตัว

26 ม.ค. 65

   “โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้”  เปิดแผนปี 65 เดินหน้าลุยตลาดอสังหาฯ ต่างจังหวัด “ภูเก็ต-พัทยา-ขอนแก่น” ชี้กำลังซื้อกลุ่มเรียลดีมานด์ เซกเมนต์กลาง-ล่าง มีแนวโน้มฟื้นตัวจากแรงกระตุ้นมาตรการรัฐ ได้แก่ การผ่อนปรนกู้ซื้อบ้าน LTV ส่งผลดีช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี และต่อเนื่องไตรมาสแรกของปี 2565 คาดปิดยอดรายได้ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาทในสิ้นปี 2564

   นายณพงศ์ ปริพนธ์พจนพิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพครบวงจร เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างหวัดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 และไตรมาสแรกของปี 2565 มีแนวโน้มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน ได้แก่ ตัวเลขการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อเริ่มปรับตัวลดลง แม้ว่าจะมีการติดเชื้อของสายพันธุ์โอมิครอน แต่ยังอยู่ในช่วงของการจับตามองและดำเนินมาตรการป้องกัน

   นอกจากนี้ สัญญาณในทางบวกของภาพรวมอสังหาฯ ยังมาจากการผ่อนคลายหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (มาตรการ LTV: Loan-to-Value) โดยกำหนดให้เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV ratio) 100% (กู้ได้เต็มมูลค่าหลักประกัน) สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย อีกทั้งการลดค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์ จากเดิมร้อยละ 2 และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ จากร้อยละ 1 เหลือเพียงร้อยละ 0.01 สำหรับการซื้อขายบ้านเดี่ยว บ้านแฝด อาคารพาณิชย์ หรือที่ดินพร้อมอาคาร และห้องชุดราคาประเมินไม่เกิน 3 ล้านบาทจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 เท่ากับเป็นการเพิ่มโอกาสทั้งผู้พัฒนาโครงการและคนที่ต้องการมีบ้านเป็นของตัวเอง รวมถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดนำร่องสำคัญอย่าง ภูเก็ต เป็นต้น

   “ต้องยอมรับว่าหลาย ๆ ปัจจัยที่เข้ามาในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี และเชื่อว่าจะมีผลดีต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกของปีหน้า โดยเฉพาะกับตลาดระดับกลางและล่าง ในกลุ่มสินค้าแนวราบ ได้แก่ ทาวน์เฮ้าส์ รวมถึงราคาบ้าน และคอนโดมิเนียมที่ยังอยู่ในเกณฑ์น่าซื้อ เพราะในภาพรวมยังไม่มีการปรับราคาขึ้นอันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจ ดังนั้นจึงมองว่าเป็นโอกาสของผู้ซื้อที่จะได้รับประโยชน์”

เดินหน้ารุกตลาดต่างจังหวัดปี 65 
   สำหรับแผนงานในปี 2565 นายณพงศ์ กล่าวว่า แนวรุกของบริษัทฯยังคงโฟกัสที่ตลาด ขอนแก่น ภูเก็ต และพัทยา เป็นหลัก ด้วยศักยภาพที่โดดเด่นของทั้ง 3 ทำเล สามารถตอบโจทย์เรียลดีมานด์การซื้อที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเพื่ออยู่เอง หรือ ซื้อเพื่อลงทุนสร้างผลตอบแทนในอนาคต

“ขอนแก่น” เมืองแห่งโอกาส
     ในส่วนของตลาดอสังหาฯ จังหวัดขอนแก่น มีศักยภาพโดดเด่นด้วยศูนย์กลางการคมนาคมขนส่ง การศึกษา การแพทย์ และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญ ขณะที่ด้านโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาเมือง ขอนแก่น เป็นหนึ่งในจังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีการพัฒนาโครงการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ รถไฟรางเบา และการยกระดับสู่เมืองแห่งประชุมและสัมมนา หรือ MICE CITY ในอนาคต 

   “เราพบว่า ความต้องการซื้ออสังหาฯ ในตัวเมืองขอนแก่นมาจากหลายกลุ่มอาชีพ ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ และคนที่ทำงานกับองค์กรธุรกิจ รวมถึงนักศึกษา ที่ต้องการซื้อคอนโดทำเลกลางเมืองในราคาที่จับต้องได้”

   ทางบริษัทฯ ได้พัฒนาโครงการ “โอเชี่ยน แกรนด์ เรสซิเดนซ์ มิตรภาพ-ขอนแก่น” คอนโดมิเนียม 8 ชั้น จำนวน 236 ยูนิต ตั้งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลราชพฤกษ์ (ใหม่) ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น และใกล้กับสถานศึกษาอย่างมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.39 ล้านบาท โดยมียอดขายแล้ว 70% คาดว่าจะสร้างเสร็จช่วงปลายปี 2565

   ทั้งนี้ ข้อมูลจากโครงการ “โอเชี่ยน เรสซิเดนซ์ มิตรภาพ – ขอนแก่น” ซึ่งเป็นโครงการแรกของบริษัทฯในจังหวัดขอนแก่น พบว่า มีอัตราผลตอบแทนการลงทุน (Capital Gain) จากการซื้อมาและขายออกไปอยู่ในเกณฑ์ที่ดีสามารถทำกำไรเพิ่มขึ้น 5-10% ขณะที่การสร้างผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Yield) จะอยู่ที่ 5-7% นับเป็นตัวเลขที่มากกว่าผลตอบแทนจากการออมประเภทบัญชีเงินฝากในปัจจุบัน

“ภูเก็ต” กำลังซื้อบ้านแนวราบเริ่มฟื้นตัว 
    “ภาพรวมอสังหาฯ จังหวัดภูเก็ตในช่วงการระบาดโควิด-19 ระลอก 1 และ 2 อาจมีส่วนทำให้เกิดการชะลอการตัดสินใจซื้อ แต่เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย การเปิดรับนักท่องเที่ยวช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2564 ก็มีส่วนช่วยให้ความต้องการซื้อบ้านที่เป็นเรียลดีมานด์เริ่มกลับมา” นายณพงศ์ กล่าว 

   โดยโครงการ “โอเชี่ยน ทาวน์ เมือง-รัษฎา” ทาวน์โฮม และอาคารพาณิชย์สไตล์โมเดิร์น พัฒนาบนพื้นที่กว่า 20 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนศรีสุทัศน์ ในเมืองภูเก็ต จำนวน 187 ยูนิต มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท ที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาและเปิดการขายในราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท เป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีศักยภาพทั้งการอยู่อาศัย และทำธุรกิจ เพราะการเชื่อมต่อในการเดินทางจากแหล่งสำคัญๆ  ของจังหวัด ได้แก่ โรงเรียน มหาวิทยาลัย หน่วยงานราชการ โรงพยาบาล และ ศูนย์การค้า 

ปี 65  “พัทยา” เตรียมเปิดรับกำลังซื้อไทย-ต่างชาติ 
   “พัทยา เป็นเมืองที่เป็นไปด้วยโอกาสด้านการท่องเที่ยว การอยู่อาศัย และการลงทุนด้านอสังหาฯ ในกลุ่มกำลังซื้อคนไทยที่ต้องการมีบ้านหลังที่2 ในเมืองท่องเที่ยว และชาวต่างชาติ เห็นได้จากยอดขายโครงการโอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ในสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เชื่อมั่นว่า ในปีหน้าจะเป็นโอกาสที่ภาพรวมตลาดอสังหาฯ พัทยา รวมถึงโครงการที่เราทำตลาดอยู่จะขยายตัว ซึ่งในภาพรวมรายได้ปีนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท มาจากรายได้จากอสังหาฯเพื่อการขาย 400 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจเพื่อการเช่าประมาณ 600 ล้านบาท จาก โอเชี่ยน มารีน่า ยอช์ท คลับ ท่าจอดเรือยอช์ทขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำนักงานให้เช่า 2 แห่ง ได้แก่ โอเชี่ยน ทาวน์เวอร์ 1 และโอเชี่ยน ทาวเวอร์ 2 รวมถึงโรงแรมเมอเว่นพิค อัสสรา รีสอร์ท แอนด์ สปา หัวหิน 

   ทั้งนี้ โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ ยังได้ใช้งบลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท รีโนเวทโรงแรม โอเชี่ยน มารีน่า ยอช์ท คลับ ครั้งใหญ่คาดว่าจะแล้วเสร็จและพร้อมเปิดให้บริการกลางปี 2565 ขณะที่แผนการพัฒนาโครงการใหม่ในต่างจังหวัดนั้น มีที่ดินพร้อมสำหรับการพัฒนาโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้บริษัทฯ ต้องใช้เวลาในการประเมินภาพรวมของตลาดอีกครั้ง โดยแผนที่เตรียมไว้มีทั้ง การพัฒนาเฟสใหม่ในโครงการเดิม รวมถึง โครงการใหม่ที่เป็นบ้านเดี่ยว” นายณพงศ์ กล่าว